จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่จากรุ่นสู่รุ่นว่าบรรพบุรุษของตนเอง ที่มาตั้งรกรากอยู่ ณ
บ้านเหมืองกุงแห่งนี้เป็นคนไท ที่ถูกกวาดต้อนมาจากเมืองปุ เมืองสาด รัฐเชียงตุง
ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขตรัฐฉานของประเทศพม่า โดยครั้งแรกมีเพียง 6 ครัวเรือน จากประวัติศาสตร์บอกเล่าดังกล่าวได้สอดคล้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นลายลักษณ์อักษรต่าง
ๆเช่น ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่พงศาดารโยนกและข้อมูลจากปั๊บสาต่างๆ
กล่าวถึงการเกณฑ์กำลังคนจากพม่าและสิบสองพันนามาสู่อาณาจักรล้านช้างหลายครั้ง ยิ่งในสมัยเชียงใหม่ฟื้นฟูอำนาจหลังจากตกอยู่ในอำนาจพม่าเป็นเวลานานกว่า
2 ศตวรรษ เมื่อปี ( พ.ศ.2325-2356
)สมัยพระเจ้ากาวิละแห่ง ต้นตระกูลเจ้าเจ็ดตนขึ้นครองเมืองเชียงใหม่
ยุคนั้นเรียกว่า “ เก็บผักใส่ซ้า
เก็บข้าใส่เมือง” บรรพบุรุษของบ้านเหมืองกุงได้ถูกกวาดต้อนมา
จากเมืองปุ เมืองสาดให้มาตั้งรกราก ณ
บริเวณหมู่แห่งนี้ โดยให้ทำนาเพื่อนำผลผลิตคือ
ข้าวเปลือกส่งให้เจ้ากาวิโรรสสุริยวงค์ (
เจ้าชีวิตอ้าว)ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้ากาวิละ
ซึ่งบริเวณพื้นที่นาอยู่ทางด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน พอถึงฤดูเก็บเกี่ยว
ชาวบ้านก็จะนำข้าวเปลือกใส่เกวียนไปส่งในตัวเมือง
ปัจจุบันพื้นที่นาทั้งหมดกลายเป็นหมู่บ้านจัดสรรเวิลด์คลับ
พอหมดฤดูทำนาชาวบ้านซึ่งมีอาชีพติดตัวมาด้วยคือ ช่างปั้น น้ำต้น( คนโฑ ) หม้อน้ำ
เพื่อสำหรับใส่น้ำดื่มกินเพื่อขายและเป็นสังฆทานถวายวัด
โดยแทบทุกครัวเรือนก็จะมีอาชีพเครื่องปั้นดินเผาปั้น